คเชนทร์ณัฐ หยางอริยมงคล ชาวไทยผู้โยกย้ายไปใช้ชีวิตในหลายเมืองของจีนมานานราว 15 ปี ตัดสินใจกลับมาเปิดร้านอาหารไทยเล็กๆ ในตำบลโซ่วชาง เมืองเจี้ยนเต๋อ มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นบ้านเกิดภรรยาในปี 2019
คเชนทร์ณัฐ ผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารมานานกว่า 30 ปี เผยว่าการเปิดร้านอาหารในโซ่วชางทำให้เขารู้สึกราวกับอยู่ที่บ้าน เพราะโซ่วชางมีภูเขาและแม่น้ำสวยงาม และวิถีชีวิตสบายๆ คล้ายกับบ้านเกิดที่จังหวัดนครปฐม
ร้านอาหารของคเชนทร์ณัฐนำเข้าวัตถุดิบจากไทย เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติต้นตำรับมากที่สุด โดยปัจจุบันการซื้อขายและขนส่งวัตถุดิบสดใหม่นั้นง่ายขึ้นกว่าที่เคยด้วยอานิสงส์ความนิยมอาหารไทยในจีนและการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจระหว่างสองประเทศที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม้ร้านอาหารของคเชนทร์ณัฐตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมือง แต่ลูกค้าจากทั้งในหางโจวและพื้นที่โดยรอบต่างหลั่งไหลมาลิ้มรสไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงวันหยุด และแม้เผชิญการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิค-19) แต่ธุรกิจอาหารไทยกลับมีแนวโน้มพัฒนาดีขึ้น
คเชนทร์ณัฐเผยว่าการนำเข้าวัตถุดิบในอดีตนั้นยากลำบาก และใช้เวลานานราว 2-3 สัปดาห์ แต่ปัจจุบันมีผู้นำเข้าและซับพลายเออร์ในจีนมากขึ้น ร้านของเขาได้รับวัตถุดิบดั่งเดิมและสดใหม่ใน 2-3 วันเท่านั้น
นอกจากอาหารไทย มะพร้าวที่นำเข้าจากไทยก็ได้รับความนิยมมากขึ้นในจีน ข้อมูลจากเหอหม่า เฟรช (Hema Fresh) ร้านค้าของสดในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป เผยว่า ยอดจำหน่ายน้ำมะพร้าวที่นำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในสิบเดือนแรกปีนี้ เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ยอดจำหน่ายมะพร้าวสดคาดว่าจะสูงถึง 140 ล้านหยวน (ราว 703 ล้านบาท) ในปีนี้
อนึ่ง ข้อมูลจากสำนักพาณิชย์มณฑลเจ้อเจียงระบุว่าปริมาณการค้าระหว่างเจ้อเจียงและไทยในปี 2021 สูงถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.37 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.2 เมื่อเทียบปีต่อปี และปริมาณการนำเข้าจากไทย 5.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.94 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.9 เมื่อเทียบต่อปี
จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด ตลาดส่งออกสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ที่สุด และแหล่งการลงทุนจากต่างประเทศที่สำคัญของไทย โดยปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศปะทุ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.58 ล้านล้านบาท) เป็นครั้งแรกในปี 2021 แม้เผชิญโรคระบาดใหญ่ และคาดว่าจะสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI)และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)